วอลต์ วิตแมน (อังกฤษ: Walt Whitman, 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1819 – 26 มีนาคม ค.ศ. 1892) เป็นกวี นักเขียนเรียงความและนักข่าวชาวอเมริกัน เป็นกวีสายมนุษยนิยมที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างแนวคิดอุตรนิยมกับสัจนิยมในอเมริกา วิตแมนเป็นหนึ่งในกวีที่มีชื่อเสียงของสหรัฐ เชี่ยวชาญการเขียนบทกวีแบบไร้ฉันทลักษณ์ และส่งอิทธิพลต่อการเขียนบทกวีในเวลาต่อมาจนแมรี เบเรนสัน นักประวัติศาสตร์ศิลป์ชาวอเมริกันกล่าวว่า "คุณไม่สามารถเข้าใจอเมริกาได้หากไม่มีวอลต์ วิตแมน และ Leaves of Grass"[1] ขณะที่เอซรา พาวด์ กวีชาวอเมริกันกล่าวว่าวิตแมนเป็น "กวีแห่งอเมริกา เขาคืออเมริกา"[2]วอลต์ วิตแมนเกิดในปี ค.ศ. 1819 ที่เมืองเวสต์ฮิลส์ รัฐนิวยอร์ก เป็นบุตรคนที่ 2 จากทั้งหมด 9 คนของวอลเตอร์กับลุยซา แวน เวลเซอร์ วิตแมน ครอบครัวของวิตแมนเป็นครอบครัวฐานะยากจนที่สนใจแนวคิดกลุ่มเควเกอร์[3] เมื่ออายุได้ 11 ปี วิตแมนเลิกเรียนหนังสือและทำงานที่โรงพิมพ์เพื่อช่วยครอบครัว[4] หลังจากนั้นเขาเดินทางไปทำงานในบรุกลิน[5] ก่อนจะตั้งกิจการหนังสือพิมพ์ของตัวเองในชื่อ ลองไอแลนเดอร์นิวส์ ที่เมืองฮันทิงตันและขายกิจการในอีก 10 เดือนต่อมา[6] ระหว่าง ค.ศ. 1840–1850 วิตแมนทำงานหนังสือพิมพ์หลายแห่งในนครนิวยอร์ก[7] ก่อนจะเริ่มเขียนกวีนิพนธ์รวมเล่ม Leaves of Grass ซึ่งตีพิมพ์แบบไม่มีชื่อผู้แต่งในปี ค.ศ. 1855 ผลงานนี้ได้รับทั้งเสียงชื่นชมและวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง[8] วิตแมนปรับแก้และตีพิมพ์ Leaves of Grass ใหม่หลายครั้งจนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อสงครามกลางเมืองอเมริกาอุบัติขึ้นในปี ค.ศ. 1861 วิตแมนได้เขียนบทกวี ""Beat! Beat! Drums!" เพื่อปลุกใจกองทัพฝ่ายเหนือ[9] และเป็นพยาบาลอาสาในโรงพยาบาลทหาร[10] หลังสงคราม วิตแมนได้งานเป็นเสมียนที่กระทรวงมหาดไทยสหรัฐ แต่ภายหลังถูกไล่ออกเนื่องจากพบว่าเขาเป็นผู้เขียน Leaves of Grass[11] แต่ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนชื่อวิลเลียม ดักลาส โอคอนเนอร์ ทำให้วิตแมนได้งานใหม่ที่สำนักงานอัยการสูงสุดสหรัฐ[12] ในช่วงเวลาใกล้กัน Leaves of Grass ได้รับการตีพิมพ์ในอังกฤษ ส่งผลให้ชื่อเสียงวิตแมนยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้น[13] วิตแมนทำงานที่สำนักงานอัยการสูงสุดสหรัฐจนถึงปี ค.ศ. 1872 และประสบโรคหลอดเลือดสมองในปีต่อมา ทำให้เขาต้องไปอาศัยอยู่กับน้องชาย จอร์จ วอชิงตัน วิตแมน ก่อนจะซื้อบ้านของตัวเองในเมืองแคมเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ วิตแมนอาศัยอยู่ที่นี่จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1892[14] ปัจจุบันบ้านที่วิตแมนอาศัยช่วงบั้นปลายได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติ[15]